การใช้ need
Need แบ่งการใช้เป็น 4 แบบหลักๆ ได้ดังนี้
1. ถ้าเป็น verb ช่วย ใช้เหมือน verb ช่วยทั่วๆ ไป คือ ไม่ต้องเติม -s หรือ -ed ที่ need และตามด้วย infinitive ไม่มี to ใช้เฉพาะในประโยคคำถามและปฏิเสธหรือกึ่งปฏิเสธ เช่น
• You need not do your assignment.
• Need you bring so much baggage?
• She asked whether she need go.
2. ถ้าเป็นกริยาหลัก ต้องตามด้วย infinitive มี to เหมือนกริยาหลักทั่วไป เพื่อไม่ให้มีกริยาซ้อนกริยา ในประโยคเดียวกัน
• She said she needed to see a doctor.
• You do not need to see a doctor.
3. กรณีประธานของประโยคไม่ได้ทำเอง หรือ กรณีถูกกระทำ ใช้ในรูปแบบ Subject + need + to be + V.3 หรือ Subject + need + V.ing เช่น
• My house needs to be repainted.
• My house needs repainting.
4. สำหรับรูปปฏิเสธของ need ในรูปอดีตมี 2 แบบ คือ
• การใช้ needn’t + have +V3 แสดงถึง การกระทำที่ไม่จำเป็นต้องทำในอดีต แต่ทำไปแล้ว
• didn’t need to+v1 แสดงถึง เหตุการณ์ในอดีตที่ไม่จำเป็นต้องทำ จึงไม่ได้ทำ
Need เป็นกริยา Anomalous Verb ที่ออกจะพิเศษอยู่นิดหน่อยนั้นคือ ใช้เป็นกริยาแท้
( Finite Verb ) ก็ได้ ใช้เป็นกริยาช่วย ( Helping Verb ) ก็ได้ ดังจะได้อธิบายถึงรายละเอียดของการใช้ดังนี้
Need ใช้อย่างกริยาแท้
( a ) Need ถ้านำมาใช้อย่างกริยาแท้ทั่ว ๆ ไป ตามด้วยคำกริยารูป Infinitive With “to” และเมื่อประธานของ need เป็นเอกพจน์ ปัจจุบันกาล need ต้องเติม s และเมื่อเป็นอดีตให้เติม ed ที่ need ได้เลย เช่น
Linda needs to go to see a doctor when she is sick.
( ลินดาต้องไปหาหมอเมื่อหล่อนไม่สบาย )
( b ) need ที่ใช้อย่างกริยาแท้ ( Finite Verb ) เมื่อทำเป็นประโยคคำถามหรือปฏิเสธต้องใช้ Verb to do เข้ามาช่วย เช่น
ประโยคบอกเล่า :
He needs to work to earn his living.
( เขาจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเขาเอง )
ประโยคปฏิเสธ :
He doesn’t need to work to earn his living.
( เขาไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพของเขา )
ประโยคคำถาม :
Does he need to work to earn his living?
( เขาจำเป็นต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพของเขาหรือ? )
2. Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย
( a ) Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย ( Helping Verb ) คำกริยาตัวอื่นที่ตามหลังต้องเป็น Infinitive Without “to” และเมื่อประธานเป็นเอกพจน์ ปัจจุบันกาล need ก็ไม่ต้องเติม s ( หรือ ed, ing อะไรทั้งนั้น ) เช่น
She need hardly do have work.
( เธอแทบจะไม่ได้ทำงานหนักเลย )
( b ) Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย ไม่นิยมนำไปแต่งประโยคหรือพูดในข้อความที่เป็นบอกเล่า ( Affirmative ) แต่นิยมนำมาใช้ในประโยคคำถาม ( Interrogative ) หรือประโยคปฏิเสธ ( Negative ) หรือในประโยคที่มีข้อความเป็นกึ่งปฏิเสธ ( Negative Implication ) เท่านั้น เช่น
ประโยคคำถาม :
Need you continue your studies abroad?
( คุณจำเป็นต้องเรียนต่อต่างประเทศหรือ? )
ประโยคปฏิเสธ :
They needn’t smoke.
( พวกเขาไม่จำเป็นต้องสูบบุหรี่ )
ประโยคคำถาม :
Need you marry her next month?
( คุณจำต้องแต่งงานกับหล่อนในเดือนหน้าหรือ? )
ประโยคกึ่งปฏิเสธ :
Sam need rarely go to see the movie.
( แซมแทบจะไม่ค่อยได้ไปดูหนังเลย )
1. ถ้าเป็น verb ช่วย ใช้เหมือน verb ช่วยทั่วๆ ไป คือ ไม่ต้องเติม -s หรือ -ed ที่ need และตามด้วย infinitive ไม่มี to ใช้เฉพาะในประโยคคำถามและปฏิเสธหรือกึ่งปฏิเสธ เช่น
• You need not do your assignment.
• Need you bring so much baggage?
• She asked whether she need go.
2. ถ้าเป็นกริยาหลัก ต้องตามด้วย infinitive มี to เหมือนกริยาหลักทั่วไป เพื่อไม่ให้มีกริยาซ้อนกริยา ในประโยคเดียวกัน
• She said she needed to see a doctor.
• You do not need to see a doctor.
3. กรณีประธานของประโยคไม่ได้ทำเอง หรือ กรณีถูกกระทำ ใช้ในรูปแบบ Subject + need + to be + V.3 หรือ Subject + need + V.ing เช่น
• My house needs to be repainted.
• My house needs repainting.
4. สำหรับรูปปฏิเสธของ need ในรูปอดีตมี 2 แบบ คือ
• การใช้ needn’t + have +V3 แสดงถึง การกระทำที่ไม่จำเป็นต้องทำในอดีต แต่ทำไปแล้ว
• didn’t need to+v1 แสดงถึง เหตุการณ์ในอดีตที่ไม่จำเป็นต้องทำ จึงไม่ได้ทำ
Need เป็นกริยา Anomalous Verb ที่ออกจะพิเศษอยู่นิดหน่อยนั้นคือ ใช้เป็นกริยาแท้
( Finite Verb ) ก็ได้ ใช้เป็นกริยาช่วย ( Helping Verb ) ก็ได้ ดังจะได้อธิบายถึงรายละเอียดของการใช้ดังนี้
Need ใช้อย่างกริยาแท้
( a ) Need ถ้านำมาใช้อย่างกริยาแท้ทั่ว ๆ ไป ตามด้วยคำกริยารูป Infinitive With “to” และเมื่อประธานของ need เป็นเอกพจน์ ปัจจุบันกาล need ต้องเติม s และเมื่อเป็นอดีตให้เติม ed ที่ need ได้เลย เช่น
Linda needs to go to see a doctor when she is sick.
( ลินดาต้องไปหาหมอเมื่อหล่อนไม่สบาย )
( b ) need ที่ใช้อย่างกริยาแท้ ( Finite Verb ) เมื่อทำเป็นประโยคคำถามหรือปฏิเสธต้องใช้ Verb to do เข้ามาช่วย เช่น
ประโยคบอกเล่า :
He needs to work to earn his living.
( เขาจำเป็นต้องทำงานหาเลี้ยงชีพตัวเขาเอง )
ประโยคปฏิเสธ :
He doesn’t need to work to earn his living.
( เขาไม่จำเป็นต้องทำงานเพื่อเลี้ยงชีพของเขา )
ประโยคคำถาม :
Does he need to work to earn his living?
( เขาจำเป็นต้องทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพของเขาหรือ? )
2. Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย
( a ) Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย ( Helping Verb ) คำกริยาตัวอื่นที่ตามหลังต้องเป็น Infinitive Without “to” และเมื่อประธานเป็นเอกพจน์ ปัจจุบันกาล need ก็ไม่ต้องเติม s ( หรือ ed, ing อะไรทั้งนั้น ) เช่น
She need hardly do have work.
( เธอแทบจะไม่ได้ทำงานหนักเลย )
( b ) Need ที่ใช้อย่างกริยาช่วย ไม่นิยมนำไปแต่งประโยคหรือพูดในข้อความที่เป็นบอกเล่า ( Affirmative ) แต่นิยมนำมาใช้ในประโยคคำถาม ( Interrogative ) หรือประโยคปฏิเสธ ( Negative ) หรือในประโยคที่มีข้อความเป็นกึ่งปฏิเสธ ( Negative Implication ) เท่านั้น เช่น
ประโยคคำถาม :
Need you continue your studies abroad?
( คุณจำเป็นต้องเรียนต่อต่างประเทศหรือ? )
ประโยคปฏิเสธ :
They needn’t smoke.
( พวกเขาไม่จำเป็นต้องสูบบุหรี่ )
ประโยคคำถาม :
Need you marry her next month?
( คุณจำต้องแต่งงานกับหล่อนในเดือนหน้าหรือ? )
ประโยคกึ่งปฏิเสธ :
Sam need rarely go to see the movie.
( แซมแทบจะไม่ค่อยได้ไปดูหนังเลย )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น